เมนู

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุผู้ฉันอาหารไม่พึงฉันเลียริมฝีปาก ภิกษุใดอาศัยความไม่
เอื้อเฟื้อ ฉันอาหารเลียริมฝีปาก ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
สุรุสุรุวรรค สิกขาบทที่ 4 จบ

สุรุสุรุวรรค สิกขาบทที่ 5


[855] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ที่สวนสัตว์
เภสกฬาวัน เขตพระนครสุงสุมารคิระ แขวงภัคคชนบท ครั้งนั้น ภิกษุ
ทั้งหลายรับประเคนโอน้ำด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิส ในโกกนุทปราสาท ชาวบ้าน
พากันเพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร จึง
ได้รับประเคนโอน้ำด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิส เหมือนพวกคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม
เล่า ภิกษุทั้งหลายได้ยินชาวบ้านพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ...ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนภิกษุทั้งหลาย
จึงได้รับประเคนโอน้ำด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิสเล่า ... แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า พวกภิกษุรับประเคนโอน้ำด้วยมือที่เป็นอามิส จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า

ทรงติเตียน


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวก
โมฆบุรุษเหล่านั้น จึงได้รับประเคนโอน้ำด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิสเล่า การ
กระทำของพวกโมฆบุรุษเหล่านั้นนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่
ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว . . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ


200. 55. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักไม่รับโอน้ำด้วยมือ
เปื้อนอามิส.

สิกขาบทวิภังค์


อันภิกษุผู้ฉันอาหารไม่พึงรับประเคนโอน้ำ ด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิส
ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ รับประเคนโอน้ำด้วยมือข้างที่เปื้อนอามิส ต้อง
อาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


ไม่แกล้ง 1 เผลอ 1 ไม่รู้ตัว 1 อาพาธ 1 รับประเคนด้วยหมายว่า
จักล้างเอง หรือให้ผู้อื่นล้าง 1 มีอันตราย 1 วิกลจริต 1 อาทิกัมมิกะ 1
ไม่ต้องอาบัติแล.
สุรุสุรุวรรค สิกขาบทที่ 5 จบ